
บริษัทตระหนักถึงความสำคัญของการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและพลังงานอย่างยั่งยืน เพื่อเป็นรากฐานของการดำเนินธุรกิจในระยะยาว และส่งเสริมคุณภาพชีวิตของสังคมและสิ่งแวดล้อมโดยรวม และมุ่งมั่นผสานหลักการ ESG เข้ากับกลยุทธ์องค์กร โดยมุ่งลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมผ่านการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ การลดของเสีย และการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก พร้อมกำหนดเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมที่วัดผลได้ และติดตามความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการบริษัท
บริษัทมุ่งมั่นในการลดผลกระทบที่เกิดจากการดำเนินธุรกิจทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยผสานแนวทางด้านสิ่งแวดล้อมเข้ากับกลยุทธ์องค์กร ผ่านการตั้งเป้าหมายระยะสั้นและระยะยาวที่สามารถวัดผลได้ (Measurable Targets) โดยมุ่งเน้นใน 3 ประเด็นหลัก ดังนี้
- การลดการใช้พลังงานและเพิ่มประสิทธิภาพพลังงาน
บริษัทดำเนินการปรับเปลี่ยนระบบแสงสว่างและจอสื่อโฆษณาให้เป็นแบบประหยัดพลังงาน เช่น การเปลี่ยนหลอดไฟเป็น LED และการปรับปรุงจอสื่อโฆษณาเพื่อลดต้นทุนต่างๆ ในระยะยาว ทั้งค่าไฟฟ้า และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน พร้อมตั้งเป้าลดการใช้พลังงานไฟฟ้าไม่น้อยกว่า 10% ภายในปี 2573 เทียบกับปีฐาน 2564 - การลดของเสียและส่งเสริมการนำกลับมาใช้ซ้ำ
บริษัทส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพโดยเน้นแนวทาง “ลด-ใช้ซ้ำ-รีไซเคิล (3Rs)” โดยดำเนินโครงการแปรรูปป้ายโฆษณาไวนิลที่ใช้แล้วให้เกิดประโยชน์ เช่น การผลิตกระเป๋า หรือการใช้ในกิจกรรมชุมชน พร้อมตั้งเป้า บรรลุ Zero Waste to Landfill ภายในปี 2570 และดำเนินการคัดแยกขยะอย่างเป็นระบบในพื้นที่สำนักงานและคลังสินค้า - การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ บริษัทได้เริ่มวัดและติดตามการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) ทั้ง Scope 1 และ Scope 2 และตั้งเป้าลดการปล่อย GHG ลงไม่น้อยกว่า 15% ภายในปี 2573 เทียบกับปีฐาน 2567 ผ่านการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดในอนาคต
นอกจากนี้บริษัทยังได้มีการกำหนด บทบาทของคณะกรรมการและผู้บริหารระดับสูง (C-Level) ในการกำกับดูแลด้านสิ่งแวดล้อม อย่างเป็นระบบเพื่อบริหารจัดการความเสี่ยงและโอกาสที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเพื่อให้มั่นใจว่าแนบทางด้าน ESG ถูกบูรณาการเข้ากับกลยุทธ์ขององค์กร
| คณะกรรมการบริษัท (Board of Directors) |
|
| คณะกรรมการบริหารความเสี่ยง (Risk Management Committee) |
|
| ผู้บริหารระดับสูง* (C-level Executives) |
|
| คณะกรรมการความยั่งยืน (Sustainability Committee) |
|
เป้าหมายด้านความยั่งยืนระยะยาว (ปี 2568-2573)
- บริษัทมีการกำหนดนโยบายในการเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าหมายองค์กรในการลดการใช้พลังงานไฟฟ้าต่อหนึ่งหน่วยพื้นที่ลงให้ได้ร้อยละ 10 ภายในปี 2574 เทียบกับฐานปี 2564
- บริษัทมีการบริหารจัดการทรัพยากรเพื่อการผลิตสื่อโฆษณาให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยการนำไวนิลเหลือใช้หรือหมดสัญญาของลูกค้านำกลับมาใช้ใหม่ รวมถึงสติกเกอร์ที่ใช้ใน สื่อโฆษณาบนรถประจำทางปรับอากาศมาปรับปรุงและออกแบบให้เกิดประโยชน์เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 ต่อปี
- บรรลุเป้าหมาย Zero Waste to Landfill โดยส่งวัสดุกลับเข้าสู่กระบวนการผลิตมากที่สุด
เป้าหมายด้านความยั่งยืนระยะสั้น (ปี 2568)
- บริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะบริหารจัดการการใช้พลังงานไฟฟ้าให้มีประสิทธิภาพ ได้แก่ การใช้พลังงานไฟฟ้าในพื้นที่ส่วนกลาง และระบบปรับอากาศ โดยบริษัทตั้งเป้าหมายลดการใช้พลังงานร้อยละ 5 ในปี 2568 เทียบกับปี 2567
- นำวัสดุโฆษณาที่ใช้แล้วกลับมาใช้ประโยชน์ให้ได้มากกว่า 25,000 ตร.ม.ต่อปี
- ส่งเสริมพฤติกรรมประหยัดพลังงานในหมู่พนักงาน ผ่านการอบรมและรณรงค์ภายในองค์กร
ผลการดำเนินงานปี 2567
- การปรับปรุงจอ LED ตั้งแต่การดำเนินงานภายในองค์กรสู่สังคม ทั้งการปรับปรุงจอ LED ที่ใช้ในการดำเนินธุรกิจ พื้นที่ทั้งหมด 8,540 ตารางเมตร และปรับปรุงสื่อโฆษณาภาพนิ่ง จำนวน 141 ป้าย จำนวนพื้นที่รวม 38,232 ตารางเมตร
- จัดทำโครงการ Plan B x Coway มอบกระบอกน้ำส่วนตัวให้พนักงานเพื่อสนับสนุนการลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง ลดขยะจากขวดน้ำดื่ม และช่วยประหยัดทรัพยากรในองค์กร ความริเริ่มนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
- บริษัทดำเนินงานในการลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกผ่านโครงการ Care the Bear ในปี 2567 โดยสามารถลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกได้ทั้ง 7,321 KgCO2e
การเสริมสร้างศักยภาพด้านสิ่งแวดล้อมในองค์กร
บริษัทให้ความสำคัญกับการพัฒนาความรู้และทักษะด้านสิ่งแวดล้อมแก่พนักงานทุกระดับ โดยในปี 2567 บริษัทได้จัดอบรมหลักสูตร “การจัดการสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนในองค์กร” เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจและตระหนักรู้ถึงการทำงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมีผู้เข้าร่วมอบรมจำนวน 78 คน ทั้งนี้ บริษัทมุ่งมั่นที่จะต่อยอดองค์ความรู้และพัฒนาหลักสูตรให้สอดคล้องกับนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อยกระดับศักยภาพบุคลากรและขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความยั่งยืน
นอกจากนี้ บริษัทได้ส่งเสริมให้บุคลากรเข้าร่วมการเรียนรู้ผ่านแพลตฟอร์ม Skillane ซึ่งมีหลักสูตรเกี่ยวกับประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมที่ครอบคลุมทั้งการวิเคราะห์และชี้ให้เห็นปัญหาสิ่งแวดล้อมที่สำคัญ การประเมินระดับนัยสำคัญของประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจ ตลอดจนการกำหนดนโยบายและตัวชี้วัด (KPI) ด้านสิ่งแวดล้อมให้มีความถูกต้อง เหมาะสม และสอดคล้องกับแนวทางการดำเนินงานอย่างยั่งยืนขององค์กร
บริษัทตระหนักถึงความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมจากปัญหาโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นปัจจัยเร่งด่วนที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตามกรอบ ความตกลงปารีส (Paris Agreement) บริษัทจึงให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม โดยได้กำหนดกรอบกลยุทธ์ด้านพลังงานและการลดก๊าซเรือนกระจกอย่างเป็นระบบ ทั้งในระดับนโยบาย การปฏิบัติ และการติดตามผล ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) แนวทางของ GRI Standards ตลอดจนแผนสู่ความเป็น Carbon Neutral และ Net Zero ในระยะยาว
เป้าหมายด้านความยั่งยืนระยะยาว (ปี 2568-2573)
- บริษัทมีเป้าหมายในการลดการใช้พลังงานไฟฟ้าให้ได้อย่างน้อย 10% ภายในปี 2573 เทียบกับปีฐาน 2564 รวมถึงเพิ่มสัดส่วนของการใช้เทคโนโลยีประหยัดพลังงานและลดก๊าซเรือนกระจกในสื่อโฆษณาให้ครอบคลุมทั่วประเทศ
- จัดทำ Roadmap สู่ Net Zero ภายในปี 2590 โดยมีการตั้งเป้าหมายระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว พร้อมแนวทางการติดตามผลและรายงานความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง
เป้าหมายด้านความยั่งยืนระยะสั้น (ปี 2568)
- ลดการใช้พลังงานจากระบบไฟฟ้าในสื่อโฆษณาและอาคารสำนักงาน ไม่น้อยกว่า 5% เมื่อเทียบกับปีฐาน 2567 ผ่านการเปลี่ยนหลอดไฟ LED, ปรับปรุงระบบควบคุมแสง และติดตั้งอุปกรณ์ประหยัดพลังงาน
- ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมหลักในองค์กรให้ได้อย่างน้อย 5% ภายในปี 2568
- ส่งเสริม พฤติกรรมประหยัดพลังงานของพนักงาน (Behavioral Change) ผ่านการอบรมและรณรงค์ภายในองค์กร
ผลการดำเนินงานปี 2567
- การปรับปรุงจอ LED พื้นที่ทั้งหมด 8,540 ตารางเมตร เป็นการช่วยลดก๊าซเรือนกระจกได้ราว 23.88 tCO2e
- การปรับปรุงสื่อโฆษณาภาพนิ่ง จำนวน 141 ป้าย จำนวนพื้นที่รวม 38,232 ตารางเมตร ส่งผลให้สามารถลดก๊าซเรือนกระจกได้ราว 117.76 tCO2e
- เข้าร่วมโครงการ Care the Bearเพื่อช่วยขับเคลื่อนสังคมด้วยการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการจัดกิจกรรมภายในองค์กรได้ถึง 7,320.88 kgCO2e
โครงการที่ช่วยลดปริมาณการใช้พลังงานในช่วงปี 2562-2567
- เปลี่ยนระบบไฟส่องสว่างเป็นโคมไฟแบบ LED
ตามที่ภาครัฐมีนโยบายบริหารจัดการด้านพลังงานของประเทศ โดยส่งเสริมและผลักดันการอนุรักษ์พลังงานอย่างเต็มรูปแบบตามแผนปฏิบัติการอนุรักษ์พลังงาน 20 ปี (พ.ศ.2554-2573) พร้อมส่งเสริมการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงและอาคารประหยัดพลังงาน พัฒนาพลังงานสะอาด เพื่อลดก๊าซเรือนกระจกและแก้ปัญหาโลกร้อน
ทางบริษัทได้ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว และสนองต่อนโยบายของรัฐในทุกๆ ด้าน โดยบริษัทได้มีการเปลี่ยนหลอดไฟเป็นแบบ LED ซึ่งใช้พลังงานต่ำแต่ให้ประสิทธิภาพในการส่องสว่างสูง ไม่มีสารรังสียูวีและสารปรอท ซึ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและช่วยลดภาวะโลกร้อนได้ รวมไปถึงช่วยลดค่าไฟฟ้าลงไปได้มากกว่าร้อยละ 50 ในปี 2565 บริษัทได้เปลี่ยนโคมไฟส่องป้ายบิลบอร์ดจากโคมไฟแบบ Metal Halide เป็นแบบ LED จำนวน 4,700 โคม ซึ่งช่วยลดค่าไฟไปได้ 13,254,000 บาทต่อปี และลดก๊าซเรือนกระจกไปได้ราว 6,552 kgCO2e หรือกิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี - ผลักดันให้ชุมชนรอบข้างลดการใช้พลังงานในการใช้ไฟฟ้าผ่านการบริจาคหลอดไฟแบบ LED Tube T8 ในปี 2566
- - บริษัทบริจาคหลอดไฟแบบ LED Tube T8 ให้กับชุมชนเก้าพัฒนา จำนวน 1,000 หลอด โดยการเปลี่ยนหลอดไฟจากหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์เป็นหลอดไฟ LED Tube T8 ทำให้สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงได้ 54,400 kgCO2e
- - บริษัทบริจาคหลอดไฟแบบ LED Tube T8 ให้กับโรงเรียนรวมราษฎร์สามัคคี จำนวน 300 หลอด โดยการเปลี่ยนหลอดไฟจากหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์เป็นหลอดไฟ LED Tube T8 ทำให้สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงได้ 16,323 kgCO2e
- การปรับปรุงจอโฆษณาดิจิทัล
เนื่องจากสินทรัพย์ในการดำเนินกิจการของบริษัทเกือบทั้งหมดเป็น ป้ายพื้นที่โฆษณา บริษัทจึงได้เล็งเห็นประโยชน์ในการปรับปรุงป้าย LED เพื่อลดการซ่อมบำรุงทั้งในด้านกำลังคนและค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง โดยการปรับปรุงจอ LED นี้ได้เริ่มมาตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นมา มีผลประกอบการ ดังนี้
- - ในปี 2565 จากการปรับปรุงจอ LED พื้นที่ทั้งหมด 1,375 ตารางเมตร ส่งผลให้ช่วยลดการใช้เชื้อเพลิงในการเดินทางประมาณ 100 ลิตรต่อเดือน, ลดค่าใช้จ่ายทั้งค่าบำรุงรักษาและค่าเชื้อเพลงราว 159,600 บาทต่อปี และลดก๊าซเรือนกระจกได้ราว 3.288 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี
- - ในปี 2566 จากการปรับปรุงจอ LED พื้นที่ทั้งหมด 5,246 ตารางเมตร เป็นการช่วยลดการใช้กำลังพลในการเดินทางเพื่อไปซ่อมบำรุงส่งผลให้สามารถลดการใช้เชื้อเพลิงในการเดินทางได้ราว 300 ลิตรต่อเดือน, ลดค่าใช้จ่ายทั้งค่ารักษาบำรุงและค่าเชื้อเพลิงราว 456,000 บาทต่อปี และลดก๊าซเรือนกระจกได้ราว 9.88 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี
- - ในปี 2567 จากการปรับปรุงจอ LED พื้นที่ทั้งหมด 8,540 ตารางเมตร เป็นการช่วยลดการใช้กำลังพลในการเดินทางเพื่อไปซ่อมบำรุงส่งผลให้สามารถลดการใช้เชื้อเพลิงในการเดินทางได้ราว 725 ลิตรต่อเดือน, ลดค่าใช้จ่ายทั้งค่ารักษาบำรุงและค่าเชื้อเพลิงราว 974,400 บาทต่อปี และลดก๊าซเรือนกระจกได้ราว 23.88 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี
- การปรับปรุงจอสื่อโฆษณาภาพนิ่ง
ในปี 2567 บริษัทมีการปรับปรุงสื่อโฆษณาภาพนิ่ง จำนวน 141 ป้าย จำนวนพื้นที่รวม 38,232 ตารางเมตร ส่งผลให้สามารถลดการใช้เชื้อเพลิงในการเดินทางได้ราว 1,000 ลิตรต่อเดือน, ลดค่าใช้จ่ายทั้งค่ารักษาบำรุงและค่าเชื้อเพลิงราว 5,203,200 บาทต่อปี และลดก๊าซเรือนกระจกได้ราว 117.76 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี
สถิติปริมาณการใช้พลังงาน
| ผลการดำเนินงาน ปี 2565 |
ผลการดำเนินงาน ปี 2566 |
ผลการดำเนินงาน ปี 2567 |
เป้าหมาย ปี 2568 |
เป้าหมาย ระยะยาว |
|
|---|---|---|---|---|---|
|
การใช้พลังงานทั้งหมด (MWh) |
48,701 | 74,361 | 67,451 | <65,000 | <60,000 |
|
อัตราการเติบโต (%) |
- | +53.2 | -9.6 | - | - |
|
การใช้พลังงานหมุนเวียน (MWh) |
0 | 0 | 0 | - | - |
|
อัตราการเติบโต (%) |
- | - | - | - | - |
โครงการที่เกี่ยวข้องกับการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
- เข้าร่วมโครงการ Care the Bear: Change the Climate Change ซึ่งสนับสนุนการลดคาร์บอนจากกิจกรรมในองค์กร เช่น การเดินทาง การประชุม และการจัดอีเวนต์
- การปรับปรุงจอ LED พื้นที่ทั้งหมด 8,540 ตารางเมตร เป็นการช่วยลดการใช้กำลังพลในการเดินทางเพื่อไปซ่อมบำรุงส่งผลให้สามารถลดการใช้เชื้อเพลิงในการเดินทางได้ราว 725 ลิตรต่อเดือน, ลดค่าใช้จ่ายทั้งค่ารักษาบำรุงและค่าเชื้อเพลิงราว 974,400 บาทต่อปี และลดก๊าซเรือนกระจกได้ราว 23.88 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี
- การปรับปรุงสื่อโฆษณาภาพนิ่ง จำนวน 141 ป้าย จำนวนพื้นที่รวม 38,232 ตารางเมตร ส่งผลให้สามารถลดการใช้เชื้อเพลิงในการเดินทางได้ราว 1,000 ลิตรต่อเดือน, ลดค่าใช้จ่ายทั้งค่ารักษาบำรุงและค่าเชื้อเพลิงราว 5,203,200 บาทต่อปี และลดก๊าซเรือนกระจกได้ราว 117.76 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี
สถิติปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของบริษัท
| ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก | ผลการดำเนินงาน ปี 2565 |
ผลการดำเนินงาน ปี 2566 |
ผลการดำเนินงาน ปี 2567 |
เป้าหมาย ปี 2568 |
เป้าหมาย ระยะยาว |
|---|---|---|---|---|---|
|
การปล่อยก๊าซเรือนกระจก (ตันคาร์บอนไดออกไซด์) |
24,563 | 38,157 | 34,692 | < 31,000 | < 29,000 |
|
- การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางตรง (ขอบเขตที่ 1) |
217 | 849 | 849 | N/A | N/A |
|
- การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อม (ขอบเขตที่ 2) |
24,346 | 37,308 | 33,719 | N/A | N/A |
|
- การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมอื่นๆ (ขอบเขตที่ 3) |
N/A | N/A | 124 | N/A | N/A |
การประเมินความเสี่ยงเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทั้ง 4 ด้าน
บริษัทดำเนินการประเมินความเสี่ยงและโอกาสด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศผ่านการประเมินความเสี่ยงทั่วทั้งองค์กร โดยแต่ละหน่วยธุรกิจระบุปัจจัยความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติหน้าที่ผ่าน Risk Champion และแบบ Top-down การประเมินผ่านคณะกรรมการกลยุทธ์องค์กร ครอบคลุมทั้งความเสี่ยงในปัจจุบันและที่เกิดขึ้นใหม่ (Emerging Risk) ตามกรอบการรายงานความเสี่ยงของคุณทำงานเปิดเผยข้อมูลการเงินที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ (Task Force on Climate-related Financial Disclosures: TCFD) โดยพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ และได้ผลการประเมินเบื้องต้น ดังนี้
| ความเสี่ยง | รายละเอียดความเสี่ยง | ผลกระทบต่อบริษัท | แนวทางการบริหารความเสี่ยง |
|---|---|---|---|
| ด้านกลยุทธ์ |
|
|
|
| ด้านการปฏิบัติงาน |
|
|
|
| ด้านการเงิน |
|
|
|
| ด้านกฎระเบียบ |
|
|
|
| โอกาส | รายละเอียดความเสี่ยง | ผลกระทบต่อบริษัท | แนวทางการบริหารความเสี่ยง |
| ผลิตภัณฑ์และบริการ |
|
|
|
| การตลาด |
|
|
|
เป้าหมายด้านความยั่งยืนระยะยาว (ปี 2568-2573)
- บริษัทมุ่งมั่นบริหารจัดการลดปริมาณการใช้น้ำโดยรวมร้อยละ 10 ในปี 2574 เพื่อความยั่งยืนในด้านสิ่งแวดล้อมและลดความเสี่ยงเรื่องปริมาณน้ำที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของภาคส่วนต่างๆ ในระยะยาว
- ไม่มีเหตุการณ์น้ำรั่วไหลหรือสูญเสียจากระบบเกินเกณฑ์ที่กำหนดในทุกพื้นที่ปฏิบัติงาน
- ดำเนินการบำรุงรักษาระบบน้ำและตรวจสอบคุณภาพอย่างสม่ำเสมอ
เป้าหมายด้านความยั่งยืนระยะสั้น (ปี 2568)
- บริษัทกำหนดเป้าหมายในการลดการใช้น้ำจาก Operation ร้อยละ 5-10 ภายในปี 2567 เทียบกับปีฐาน 2564
- เพิ่มประสิทธิภาพการวัดและติดตามปริมาณการใช้น้ำ
ผลการดำเนินงานปี 2567
- บริษัทมีปริมาณการใช้น้ำลดลงราว 1% จากปีก่อน อยู่ที่ 492 ลูกบาศก์เมตร
- อัตราปริมาณการใช้น้ำภายในองค์กรต่อจำนวนพนักงานทั้งหมดลดลงมาอยู่ที่ 0.48 เท่า จาก 0.51 เท่าในปี 2566
แนวทางการบริหารจัดการน้ำ
บริษัทได้ดำเนินการตามแนวทางที่กำหนดไว้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพการใช้น้ำ ดังนี้:
- การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำ: ปรับปรุงกระบวนการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้น้ำ เช่น การตรวจสอบและควบคุมจุดใช้น้ำสำคัญ การติดตั้งอุปกรณ์ประหยัดน้ำ และการกำหนดมาตรฐานการใช้น้ำในกิจกรรมต่าง ๆ ภายในองค์กร เพื่อลดการสูญเสียน้ำโดยไม่จำเป็น
- การนำน้ำกลับมาใช้ใหม่ (Water Reuse): ดำเนินการรวบรวมน้ำเสียจากกระบวนการผลิตหรืองานบริการ นำเข้าสู่ระบบบำบัดที่ได้มาตรฐาน และนำน้ำที่ผ่านการบำบัดแล้วกลับมาใช้ในกิจกรรมที่ไม่ต้องการคุณภาพน้ำสะอาด เช่น การล้างพื้น หรือการล้างอุปกรณ์ เพื่อลดการพึ่งพาน้ำจากแหล่งธรรมชาติ
- การรับผิดชอบต่อคุณภาพน้ำทิ้ง: ควบคุมและตรวจสอบคุณภาพน้ำเสียอย่างต่อเนื่องให้เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานที่กฎหมายกำหนด ก่อนปล่อยน้ำคืนสู่แหล่งสาธารณะ เพื่อป้องกันผลกระทบต่อระบบนิเวศและคุณภาพชีวิตของชุมชนโดยรอบ
- การประเมินและบริหารความเสี่ยงด้านน้ำ: เฝ้าติดตามแนวโน้มความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการขาดแคลนน้ำ พร้อมทั้งพัฒนามาตรการป้องกันและปรับตัว เพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่องในสถานการณ์ที่ท้าทาย
- การสร้างความตระหนักและมีส่วนร่วม: สนับสนุนการสร้างจิตสำนึกเรื่องการอนุรักษ์น้ำในหมู่พนักงานผ่านกิจกรรมอบรมและรณรงค์ภายในองค์กร รวมถึงการส่งเสริมการใช้น้ำอย่างรู้คุณค่าในทุกระดับการดำเนินงาน
มาตราการส่งเสริมประสิทธิภาพในการใช้น้ำ
ในปี 2567 บริษัทได้ดำเนินการกำหนดแนวทางสำหรับการบริหารจัดการน้ำอย่างมีคุณค่า โดยคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ ภายใต้หลักการใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า (Water Stewardship) เพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อมโดยรอบ
บริษัทดำเนินการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างรอบด้าน ตั้งแต่การใช้น้ำในกิจกรรมภายในองค์กร การบำบัดและควบคุมคุณภาพน้ำเสีย ไปจนถึงการปล่อยน้ำคืนสู่สาธารณะ โดยมีการตรวจสอบคุณภาพน้ำเสียอย่างเข้มงวดผ่านห้องปฏิบัติการวิเคราะห์เอกชนที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม และได้รับการรับรองมาตรฐานตามหลักเกณฑ์ GLP/DIW เพื่อให้มั่นใจว่าน้ำเสียที่ปล่อยออกสู่แหล่งน้ำสาธารณะมีคุณภาพเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานที่กฎหมายกำหนด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้น้ำ บริษัทได้ดำเนินโครงการและมาตรการส่งเสริมต่าง ๆ ดังนี้:
- บริษัทจัดทำแผนบำรุงรักษาอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับระบบประปาอย่างต่อเนื่อง ช่วยให้ลดความเสี่ยงที่อุปกรณ์จะชำรุด และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำภายในบริษัท
- การเปลี่ยนก๊อกน้ำล้างมือจากระบบธรรมดาเป็นแบบอัตโนมัติ (Sensor Tap) ช่วยลดปริมาณน้ำที่ใช้โดยไม่จำเป็น
- รณรงค์สร้างจิตสำนึกในการใช้น้ำของพนักงานภายในองค์กร
- การหาแหล่งจัดเก็บน้ำฝนเพื่อนำมาใช้ประโยชน์ในด้านอื่นๆ เช่น การรดน้ำต้นไม้
สถิติปริมาณการใช้น้ำของบริษัท
| ผลการดำเนินงาน ปี 2565 |
ผลการดำเนินงาน ปี 2566 |
ผลการดำเนินงาน ปี 2567 |
เป้าหมาย ปี 2568 |
เป้าหมาย ระยะยาว |
|
|---|---|---|---|---|---|
|
ปริมาณการใช้น้ำ (ลบ.ม) |
360 | 493 | 492 | 480 | 450 |
|
อัตราการเติบโต (%) |
-21% | +37% | -1% | - | - |
บริษัทตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ชุมชน และสังคมโดยรอบในทุกขั้นตอนของการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะในด้าน การจัดการของเสีย ซึ่งถือเป็นหนึ่งในประเด็นด้านความยั่งยืนที่มี ความสำคัญต่อธุรกิจของบริษัททั้งทางตรงและทางอ้อม
ในเชิงธุรกิจ หากไม่มีการบริหารจัดการของเสียอย่างเหมาะสม อาจนำไปสู่
- ความเสี่ยงด้านกฎหมายและการไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อม
- ความเสื่อมเสียต่อชื่อเสียงขององค์กร
- การเพิ่มต้นทุนการดำเนินงานในระยะยาว
- การสูญเสียโอกาสทางธุรกิจจากคู่ค้าที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน
ในเชิงคุณภาพ บริษัทให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการของเสียประเภทต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะวัสดุจากป้ายโฆษณา เช่น ไวนิลที่ใช้งานแล้ว ซึ่งอาจก่อให้เกิดมลภาวะต่อชุมชนหากไม่มีการกำจัดอย่างถูกต้อง บริษัทจึงได้ดำเนินการภายใต้หลัก Circular Economy โดยมุ่งเน้น “3R” ได้แก่ Reduce, Reuse, และ Recycle พร้อมทั้งมุ่งพัฒนานวัตกรรมเพื่อยืดอายุการใช้งานวัสดุและเพิ่มมูลค่าของเสีย เช่น การนำไวนิลที่ใช้งานแล้วไปผลิตเป็นกระเป๋า ถุงผ้า หรือวัสดุตกแต่งชุมชน ซึ่งไม่เพียงช่วยลดปริมาณของเสียเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมกิจกรรมเพื่อสังคมและสร้างรายได้ให้กับชุมชน
ในเชิงปริมาณ ในปี 2567 บริษัทสามารถ
- ลดการใช้ป้ายไวนิลใหม่ได้กว่า 15% จากการวางแผนการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพและการใช้ซ้ำวัสดุ
- นำวัสดุโฆษณาที่ใช้แล้วเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลมากกว่า 12 ตัน ซึ่งเทียบเท่ากับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ประมาณ 18 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (tCO₂e)
- คัดแยกขยะทั่วไปในสำนักงานได้มากกว่า 3 ตันต่อปี โดยนำส่งให้หน่วยงานท้องถิ่นจัดการอย่างถูกวิธี และสามารถจำหน่ายขยะรีไซเคิลกลับเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนได้
นอกจากนี้ บริษัทได้ติดตั้งถังขยะแยกประเภทครอบคลุมพื้นที่สำนักงานใหญ่และคลังสินค้า รวมถึงจัดการขยะอันตรายและขยะเปียกให้เป็นไปตามข้อกำหนดของกรุงเทพมหานคร ตลอดจนมีแนวทางศึกษาการนำขยะเปียกไปผลิตเป็นก๊าซชีวภาพในอนาคต เพื่อขยายผลการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ
แนวทางการจัดการของเสียที่เป็นระบบและต่อเนื่องนี้ ไม่เพียงช่วยลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม แต่ยังเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของบริษัทในฐานะองค์กรที่รับผิดชอบต่อสังคม และช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับผู้มีส่วนได้เสียในระยะยาว
เป้าหมายด้านความยั่งยืนระยะยาว (ปี 2568-2573)
- การจัดการขยะภายในบริษัทผ่านกระบวนการ “Zero Waste to Landfill” โดยมีวัตถุประสงค์ในการนำขยะกลับเข้าสู่กระบวนการผลิตให้ได้มากที่สุด
- นำวัสดุโฆษณาที่ใช้แล้วกลับมาต่อยอดให้เกิดประโยชน์มากกว่า 25,000 ตารางเมตรต่อปี
เป้าหมายด้านความยั่งยืนระยะสั้น (ปี 2568)
- การนำไวนิลเหลือใช้หรือหมดสัญญาของลูกค้าแล้วนำกลับมาใช้ใหม่ให้เกิดประโยชน์
- ติดตั้งจุดคัดแยกขยะต้นทางให้ครอบคลุมพื้นที่สำนักงานหลัก
ผลการดำเนินงานปี 2567
- ปริมาณไวนิลที่ส่งมอบให้แก่องค์กรและภาคเอกชนต่างๆ ในปี 2567 มากถึง 23,688 ตารางเมตร คิดเป็น การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 137.27 ตัน CO₂e และประหยัดค่ากำจัดของเสียกว่า 118,340 บาท/ปี
- ปริมาณขยะของเสียภายในองค์กรรวมทั้งสิ้น 14 ตัน
- ส่วนของป้ายโฆษณาที่เก่าและชำรุด บริษัทจะนำไปทิ้งและกำจัดโดยหน่วยงานของ กทม.
โครงการที่เกี่ยวข้องกับการจัดการของเสีย
- การคัดแยกขยะ
บริษัทตระหนักถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศจึงมีการรณรงค์และขอความร่วมมือในการคัดแยกขยะเพื่อช่วยลดปริมาณขยะลง และช่วยลดมลภาวะที่เป็นพิษ โดยบริษัทได้มีการติดตั้งถังขยะแบบแยกประเภทให้ครอบคลุมพื้นที่ทั้งอาคารสำนักงานใหญ่ และโกดังตามจุดต่าง และแยกขยะทั่วไปและขยะพิษแยกเก็บทิ้งให้กทม. รวมไปถึงนำขยะรีไซเคิลมาจำหน่ายต่อ เพื่อช่วยลดปริมาณขยะลง สามารถนำขยะเปียกไปทำเป็นเชื้อเพลิงหรือก๊าซชีวภาพได้ และเพิ่มความปลอดภัยต่อขยะที่เป็นอันตราย - Zero Waste Process ลดพลังงานในการกำจัดภาพโฆษณาเก่าไวนิล (Vinyl)
บริษัทมีนโยบายลดการกำจัดป้ายโฆษณาไวนิลผ่านการฝังกลบหรือเผาไหม้ และเปลี่ยนเป็นการ “ต่อยอดเพื่อสร้างคุณค่า” โดยได้ดำเนินโครงการร่วมกับหน่วยงานและชุมชนต่าง ๆ เพื่อสร้างอาชีพและประโยชน์ทางสังคมอย่างยั่งยืน รวมปริมาณไวนิลที่ส่งมอบในปี 2567 มากถึง 23,688 ตารางเมตร คิดเป็น การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 137.27 ตัน CO₂e และประหยัดค่ากำจัดของเสียกว่า 118,340 บาท/ปี รายละเอียดดังนี้
- สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จังหวัดนนทบุรี
บริษัทส่งมอบไวนิลที่ไม่ได้ใช้งาน จำนวน 6,817 ตารางเมตร เพื่อนำไปผลิตกระเป๋าและพัฒนาทักษะศักยภาพของบุคคลในสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จังหวัดนนทบุรี - วิสาหกิจชุมชนทุ่งเศรษฐี จังหวัดขอนแก่น
บริษัทส่งมอบไวนิลที่ไม่ได้ใช้งาน จำนวน 1,276 ตารางเมตร เพื่อนำไปผลิตกระเป๋าเพื่อสร้างอาชีพและรายได้ให้แก่คนในชุมชน อีกทั้งวิสาหกิจชุมชนทุ่งเศรษฐี จังหวัดขอนแก่นยังได้มีส่วนร่วมในการนำไวนิลที่ไม่ได้ใช้งานไปจัดทำชุดให้แก่ผู้เข้าประกวด Miss Universe Thailand 2024 ในรอบการประกวดระดับภูมิภาค - มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
บริษัทส่งมอบไวนิลที่ไม่ได้ใช้งาน จำนวน 1,440 ตารางเมตร เพื่อนำไปให้นักศึกษาของมหวิทยาลัยฯ ออกแบบการแปรรูปและพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์ - หมู่บ้านป่าเป้าทอง อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี
บริษัทส่งมอบไวนิลที่ไม่ได้ใช้งาน จำนวน 12,507 ตารางเมตร เพื่อนำไปใช้งานในด้านการเกษตรปูรองเพื่อตากข้าวและคลุมฟางหลังการเก็บเกี่ยวประจำฤดู - อื่นๆ
บริษัทส่งมอบไวนิลที่ไม่ได้ใช้งาน จำนวน 1,630 ตารางเมตร
ปริมาณไวนิลที่ใช้แล้วและนำมาต่อยอดเพื่อสร้างคุณค่า
| ปี 2562 | ปี 2563 | ปี 2564-65 | ปี 2566 | ปี 2567 | |
|---|---|---|---|---|---|
|
พื้นที่ป้ายไวนิลที่ใช้แล้ว (ตารางเมตร) |
14.499 | 13,239 | 5,036 | 18,858 | 23,688 |
|
น้ำหนักของป้ายไวนิลที่ใช้แล้ว (ตัน) |
7.25 | 6.62 | 2.52 | 9.30 | 11.83 |
แผนการจัดการของเสียในอนาคต: การบริหารจัดการขยะฝังกลบเป็นศูนย์ (Zero Waste to Landfill)
บริษัทตระหนักถึงความสำคัญของการจัดการของเสียอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อสิ่งแวดล้อม ชุมชน และระบบนิเวศในระยะยาว บริษัทจึงมีแผนที่จะดำเนิน โครงการการบริหารจัดการขยะฝังกลบเป็นศูนย์ (Zero Waste to Landfill) เพื่อส่งเสริมการบริหารจัดการของเสียให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และลดปริมาณของเสียที่ถูกส่งไปยังหลุมฝังกลบให้น้อยที่สุด โดยบริษัทมีแผนที่จะวางระบบบริหารจัดการของเสียโดยแบ่งประเภทการจัดการไว้ล่วงหน้า ดังนี้
- ขยะรีไซเคิล (Recyclable Waste) เช่น ขวดพลาสติก กระป๋องอะลูมิเนียม และกล่องบรรจุภัณฑ์ จะถูกจัดเก็บแยกและส่งต่อให้กับพันธมิตรที่เชี่ยวชาญด้านการรีไซเคิล เพื่อนำกลับเข้าสู่กระบวนการผลิตใหม่
- กระดาษใช้แล้ว (Used Paper) จะถูกรวบรวมและส่งให้หน่วยงานรับรีไซเคิล เพื่อใช้ในการผลิตกระดาษใหม่ ลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ
- ขยะอินทรีย์ (Organic Waste) เช่น เศษอาหาร ใบไม้ และกากกาแฟ ซึ่งบริษัทมีแผนจะร่วมมือกับภาคีเครือข่ายในการแปรรูปเป็นปุ๋ยอินทรีย์หรือพลังงานทดแทนในระยะถัดไป
- ขยะอันตราย (Hazardous Waste) เช่น หลอดไฟ แบตเตอรี่ และหมึกพิมพ์ บริษัทมีแผนจะจัดตั้งระบบแยกขยะอันตรายและส่งกำจัดผ่านผู้ให้บริการที่ได้รับการรับรองจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม เพื่อป้องกันมลพิษและความเสี่ยงต่อสิ่งแวดล้อม
แผนสนับสนุนการดำเนินการและเป้าหมายของโครงการ
- ลดปริมาณของเสียที่ส่งไปฝังกลบให้เหลือ ศูนย์ (Zero Waste to Landfill) ในพื้นที่ปฏิบัติงานหลัก
- ติดตั้ง จุดคัดแยกขยะต้นทาง ภายในสำนักงานและคลังเก็บอุปกรณ์
- จัดอบรมพนักงานเพื่อสร้างความเข้าใจในหลัก 3R (Reduce, Reuse, Recycle)
สถิติปริมาณของเสียของบริษัท
| ผลการดำเนินงาน ปี 2565 |
ผลการดำเนินงาน ปี 2566 |
ผลการดำเนินงาน ปี 2567 |
เป้าหมาย ปี 2568 |
เป้าหมาย ระยะยาว |
|
|---|---|---|---|---|---|
|
ปริมาณของเสียทั้งหมด (ตัน) |
N/A | 14 | 14 | 10 | 10 |
|
อัตราการเติบโต (%) |
- | - | - | - | |
|
- ปริมาณของเสียไม่อันตราย (ตัน) |
N/A | 14 | 14 | 10 | 10 |
|
- ปริมาณของเสียอันตราย (ตัน) |
N/A | - | - | - | - |
สถิติปริมาณของเสียที่เกิดจากการผลิตป้ายโฆษณา
| ผลการดำเนินงาน ปี 2565 |
ผลการดำเนินงาน ปี 2566 |
ผลการดำเนินงาน ปี 2567 |
เป้าหมาย ปี 2568 |
เป้าหมาย ระยะยาว |
|
|---|---|---|---|---|---|
|
ปริมาณของเสียทั้งหมด (ตัน) |
279,010 | 602,741 | 649,917 | <620,000 | <600,000 |
|
อัตราการเติบโต (%) |
- | 116.03 | 7.83 | - | - |