
คณะกรรมการบริษัทได้กำหนดองค์ประกอบ คุณสมบัติ วาระการดำรงตำแหน่ง และหน้าที่ความรับผิดชอบของคณะกรรมการตรวจสอบไว้ใน “กฎบัตรคณะกรรมการตรวจสอบ” เป็นลายลักษณ์อักษร โดยคณะกรรมการตรวจสอบในรอบปีที่ผ่านมา ประกอบด้วยกรรมการอิสระจำนวน 3 ท่าน ซึ่งมีความรู้และประสบการณ์ด้านบัญชี การเงิน กฎหมาย และการบริหาร และมีความเป็นอิสระตามหลักเกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
องค์ประกอบและความเป็นอิสระการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการตรวจสอบ
คณะกรรมการตรวจสอบยืนยันว่ากรรมการทุกท่านมีคุณสมบัติและความเป็นอิสระตามกฎหมายและหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนกับกิจการ ธุรกรรม หรือคู่สัญญาที่อาจกระทบต่อการให้ความเห็นอย่างเป็นกลาง
คณะกรรมการตรวจสอบสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพอย่างต่อเนื่อง โดยส่งเสริมการเข้าร่วมอบรม/สัมมนาที่เกี่ยวข้องกับการกำกับดูแลกิจการ มาตรฐานการรายงานทางการเงิน กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และความเสี่ยงสมัยใหม่ (เช่น ด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี และการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล)
การเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการตรวจสอบในปี 2567
คณะกรรมการตรวจสอบปฏิบัติหน้าที่ตามที่คณะกรรมการบริษัทมอบหมาย และตามกฎบัตรของคณะกรรมการตรวจสอบ ซึ่งสอดคล้องกับข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยในรอบระยะเวลาบัญชีปี 2567 คณะกรรมการตรวจสอบได้ประชุมรวม 7 ครั้ง คณะกรรมการตรวจสอบได้หารือร่วมกับฝ่ายจัดการ ผู้ตรวจสอบภายใน และผู้สอบบัญชีในวาระที่เกี่ยวข้อง และมีการหารือกับผู้สอบบัญชีโดยปราศจากฝ่ายบริหารเข้าร่วมตามแนวปฏิบัติที่ดี เพื่อรับฟังข้อสังเกตอย่างอิสระ และได้รายงานผลการประชุมต่อคณะกรรมการบริษัททุกครั้งสรุปสาระสำคัญของภารกิจในรอบปีได้ดังนี้
หน่วย: การเข้าร่วมประชุม/สิทธิในการประชุม
| ลำดับ | รายชื่อ | ตำแหน่ง | การเข้าร่วมประชุม |
| 1 | ดร.เพ็ญนภา ธนสารศิลป์ | ประธานกรรมการตรวจสอบ | 7/7 |
| 2 | นางมลฤดี สุขพันธรัชต์ | กรรมการตรวจสอบ | 7/7 |
| 3 | นายมานะ จันทนะยิ่งยง | กรรมการตรวจสอบ | 6/6 |
ขอบเขตงานและวิธีการทำงาน
คณะกรรมการตรวจสอบปฏิบัติหน้าที่ตามกฎบัตร โดยให้ความสำคัญกับ
- ความถูกต้องครบถ้วนและความทันท่วงทีของการรายงานทางการเงิน
- ความเพียงพอและประสิทธิผลของระบบการควบคุมภายในและการบริหารความเสี่ยง
- การปฏิบัติตามกฎหมาย กฎระเบียบ และข้อกำหนดของตลาดทุน
- ความโปร่งใสในการทำรายการที่เกี่ยวโยงกัน/อาจมีความขัดแย้งทางผลประโยชน์
- การกำกับดูแลงานตรวจสอบภายในและการประเมินผลการดำเนินการแก้ไขตามข้อเสนอแนะ
ผลการปฏิบัติหน้าที่สำคัญในรอบปี
รายงานทางการเงิน
คณะกรรมการตรวจสอบได้สอบทานงบการเงินรายไตรมาสและงบการเงินประจำปีของบริษัท รวมทั้งงบการเงินรวมของบริษัทและบริษัทย่อยร่วมกับผู้สอบบัญชีฝ่ายจัดการ และผู้ตรวจสอบภายใน โดยพิจารณาในประเด็นสำคัญพร้อมให้คำแนะนำ รวมทั้งข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการควบคุมภายในในการจัดทำงบการเงินของบริษัทมีความถูกต้องเชื่อถือได้อีกทั้งมีการเปิดเผยข้อมูลที่สำคัญอย่างเพียงพอและทันเวลาต่อผู้ใช้งบการเงิน สอดคล้องกับกฎหมายและประกาศต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง กฎเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์อีกทั้งเป็นไปตามมาตรฐานการรายงานทางการเงิน นอกจากนี้ คณะกรรมการตรวจสอบได้ประชุมร่วมกับผู้สอบบัญชี โดยไม่มีผู้บริหารหรือฝ่ายจัดการเข้าร่วมประชุมด้วย เพื่อซักถามประเด็นต่างๆ จากผลการตรวจสอบของผู้สอบบัญชีปรากฏว่าผู้สอบบัญชีไม่มีข้อมูลหรือข้อสังเกตเป็นพิเศษจากการตรวจสอบแต่ประการใด
รายการเกี่ยวโยงหรือรายการที่อาจมีความขัดแย้งทางผลประโยชน์
คณะกรรมการตรวจสอบได้พิจารณาและให้ความเห็นเกี่ยวกับรายการเกี่ยวโยงกัน หรือรายการที่อาจมีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ของบริษัทและบริษัทย่อย โดยยึดหลักความระมัดระวัง ความสมเหตุสมผล และคำนึงถึงประโยชน์ของผู้มีส่วนได้เสียของบริษัท รวมทั้งการเปิดเผยข้อมูลอย่างเพียงพอ ตามเงื่อนไขที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยกำหนด
การควบคุมภายในและการบริหารความเสี่ยง
คณะกรรมการตรวจสอบได้สอบทานความเพียงพอและประสิทธิผลของระบบการควบคุมภายใน จากรายงานของผู้ตรวจสอบภายในและผู้สอบบัญชี รวมถึงติดตามแผนการปรับปรุงแก้ไขประเด็นที่ตรวจพบอย่างต่อเนื่อง
ในปี 2567 คณะกรรมการตรวจสอบให้ความสำคัญกับความเสี่ยงด้านการเงินและการปฏิบัติการ ความเสี่ยงด้านกฎกติกาและการปฏิบัติตาม (Compliance) ความเสี่ยงจากเทคโนโลยีสารสนเทศและไซเบอร์ซีเคียวริตี ตลอดจนความเสี่ยงจากบุคคลที่สาม (Third-party risk) และได้กำกับให้ฝ่ายบริหารดำเนินมาตรการที่เหมาะสมตามกรอบความเสี่ยงของบริษัท
การปฏิบัติตามกฎหมายและข้อกำหนด
คณะกรรมการตรวจสอบได้ตรวจสอบให้การดำเนินงานของบริษัทเป็นไปตาม พระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์ฯ และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัท พร้อมติดตาม การเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ ที่อาจมีผลต่อการดำเนินธุรกิจ และกำกับให้มีการปรับปรุงกระบวนการให้สอดคล้องอย่างทันท่วงที
การกำกับดูแลกิจการ (CG) และประเด็นด้านความยั่งยืน (ESG)
คณะกรรมการตรวจสอบได้ส่งเสริมให้บริษัทบริหารจัดการตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี เพื่อความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และเป็นธรรม พร้อมทั้งติดตามการบริหารความเสี่ยงด้าน ESG ที่อาจมีสาระสำคัญต่อผลการดำเนินงานและชื่อเสียงองค์กร (เช่น ความเป็นส่วนตัวของข้อมูลส่วนบุคคล ความปลอดภัยไซเบอร์และจริยธรรมทางธุรกิจ) รวมถึงกำกับให้มีช่องทางรับข้อร้องเรียน/การแจ้งเบาะแส (Whistleblowing) ที่เหมาะสม และมีขั้นตอนสอบทานที่เป็นอิสระ
การกำกับดูแลงานตรวจสอบภายใน
The คณะกรรมการตรวจสอบได้พิจารณา คัดเลือก และแต่งตั้งบริษัท พีแอนด์แอล อินเทอร์นอล ออดิท จำกัด ปฏิบัติหน้าที่ผู้ตรวจสอบภายในของบริษัทประจำปี 2567 ซึ่งบริษัท พีแอนด์แอล อินเทอร์นอล ออดิท จำกัด ได้มอบหมายให้คุณวรรณวิมล จองสุรียภาส เป็นผู้รับผิดชอบหลักในการปฏิบัติหน้าที่ตรวจสอบภายในของบริษัท โดยคณะกรรมการตรวจสอบได้พิจารณาความเป็นอิสระของผู้ตรวจสอบภายในขอบเขตการปฏิบัติงาน แผนการตรวจสอบประจำปี พิจารณารายงานผลการตรวจสอบ การติดตามผลการแก้ไขตามรายงานการตรวจสอบประเด็นที่มีนัยสำคัญ ให้คำแนะนำในการพัฒนาปรับปรุงการปฏิบัติงานตรวจสอบให้มีประสิทธิภาพ
สำหรับบุคคลภายในองค์กรที่ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ผู้ประสานงานกับผู้ตรวจสอบภายในของบริษัท คือ คุณจำเรียง ศิลธรรม ซึ่งจะเป็นผู้ติดต่อหลักในการให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง อำนวยความสะดวกในการดำเนินการตรวจสอบและติดตามความคืบหน้าของการแก้ไขตามข้อเสนอแนะของผู้ตรวจสอบภายใน เพื่อให้การตรวจสอบเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี
การพิจารณาคัดเลือกผู้สอบบัญชีและการกำหนดค่าตอบแทนประจำปี 2567
คณะกรรมการตรวจสอบได้คัดเลือกผู้สอบบัญชีและกำหนดค่าตอบแทน โดยพิจารณาถึงความรู้ความสามารถประสบการณ์และคุณภาพงานของผู้สอบบัญชีสถานะของผู้สอบบัญชีข้อจำกัดที่มีสาระสำคัญ หรือข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์ฯ หรือหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องให้มั่นใจว่าผู้สอบบัญชีมีความเป็นอิสระและเป็นกลางในการปฏิบัติงานอย่างแท้จริง
ทั้งนี้ คณะกรรมการตรวจสอบได้คัดเลือกผู้สอบบัญชีบริษัท สำนักงาน อีวาย จำกัด พร้อมทั้งพิจารณาค่าตอบแทนการตรวจสอบงบการเงินสำหรับปี 2567 โดยนำเสนอคณะกรรมการบริษัทและนำเสนอขอนุมัติต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 ตามขั้นตอนต่อไป โดยคณะกรรมการตรวจสอบมีความเห็นว่าผู้สอบบัญชีบริษัท สำนักงานอีวาย จำกัด เป็นผู้มีความเข้าใจธุรกิจของบริษัทเป็นอย่างดีประกอบวิชาชีพด้วยความเป็นอิสระเป็นกลาง และส่งมอบงานตรงตามเวลาอย่างสม่ำเสมอ โดยในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 คณะกรรมการบริษัทได้เสนอให้แต่งตั้ง บริษัทสำนักงาน อีวาย จำกัด เป็นผู้สอบบัญชีของบริษัท โดยมีรายชื่อผู้สอบบัญชีดังนี้
- นายเติมพงษ์ โอปนพันธุ์ ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตทะเบียนเลขที่ 4501 และ/หรือ
- นายกฤษดา เลิศวนา ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตทะเบียนเลขที่ 4958 และ/หรือ
- นางกุลรพี ปิยะวรรณสุทธิ์ ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตทะเบียนเลขที่ 6137
คณะกรรมการตรวจสอบได้ปฏิบัติตามหน้าที่และความรับผิดชอบตามที่ได้ระบุไว้ในกฎบัตรของคณะกรรมการตรวจสอบที่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการบริษัท โดยใช้ความรู้ความสามารถ และความระมัดระวัง รอบคอบมีความเป็นอิสระอย่างเพียงพอ เพื่อประโยชน์ต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียมกันคณะกรรมการตรวจสอบมีความเห็นว่าการบริหารและการดำเนินงานของบริษัทมีการพัฒนาด้านการกำกับดูแลกิจการที่ดีอย่างต่อเนื่อง มีระบบการบริหารจัดการความเสี่ยง มีการจัดวางระบบการควบคุมภายใน และระบบการตรวจสอบที่เหมาะสม เพียงพอและมีประสิทธิผลรายงานข้อมูลทางการเงินของบริษัทมีความถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญ เชื่อถือได้สอดคล้องกับมาตรฐานการรายงานทางการเงินระหว่างประเทศมีการเปิดเผยข้อมูลอย่างเพียงพอ และบริษัทมีการปฏิบัติงานสอดคล้องตามกฎหมายกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจ
การประเมินผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการตรวจสอบ
คณะกรรมการตรวจสอบได้ดำเนินการประเมินผลการปฏิบัติงานประจำปีตามแบบประเมินตนเอง (Self-assessment) ครอบคลุมด้านโครงสร้าง บทบาทหน้าที่ กระบวนการทำงาน และผลสัมฤทธิ์ โดยผลการประเมินสะท้อนว่าการปฏิบัติหน้าที่เป็นไปอย่างมีประสิทธิผลและสอดคล้องกับกฎบัตร ทั้งนี้ คณะกรรมการตรวจสอบจะนำข้อเสนอแนะจากการประเมิน ไปใช้ปรับปรุงการทำงานอย่างต่อเนื่อง
การติดตามประเด็นจากปีก่อนและความคืบหน้า
คณะกรรมการตรวจสอบได้ติดตามสถานะการดำเนินการแก้ไขประเด็นที่ผู้ตรวจสอบภายในและผู้สอบบัญชีเคยเสนอแนะในช่วงก่อนหน้า โดยฝ่ายบริหารได้รายงานความคืบหน้าตามแผนการปรับปรุงอย่างสม่ำเสมอ ไม่พบข้อบกพร่องเชิงระบบที่คณะกรรมการตรวจสอบเห็นว่ามีนัยสำคัญ ซึ่งจำเป็นต้องรายงานเพิ่มเติมต่อผู้ถือหุ้น ณ วันที่จัดทำรายงานฉบับนี้
แนวทางและประเด็นที่ให้ความสำคัญในปีถัดไป
คณะกรรมการตรวจสอบกำหนดให้มีการติดตามเชิงรุกในประเด็นต่อไปนี้
- การยกระดับความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ และการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้สอดคล้องกับกฎหมายและแนวปฏิบัติที่ดี
- การเสริมความพร้อมของการควบคุมภายในเชิงดิจิทัล และการใช้ข้อมูลในการติดตามความเสี่ยง (Data-driven risk monitoring)
- การทบทวนประสิทธิผลของช่องทางร้องเรียน และความเป็นอิสระของกระบวนการสอบสวน
- การติดตามประเด็น ESG ที่มีสาระสำคัญ และผลกระทบต่อกลยุทธ์/ห่วงโซ่มูลค่า รวมถึงความเสี่ยงจากคู่ค้าและบุคคลที่สาม
- การพัฒนาศักยภาพของคณะกรรมการตรวจสอบและหน่วยงานตรวจสอบภายในอย่างต่อเนื่อง
ข้อความรับรองของคณะกรรมการตรวจสอบ
คณะกรรมการตรวจสอบได้ปฏิบัติหน้าที่ตามที่ระบุไว้ในกฎบัตรซึ่งได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการบริษัทด้วยความรู้ ความสามารถ ความระมัดระวัง และความเป็นอิสระ เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียมกัน คณะกรรมการตรวจสอบมีความเห็นว่าในรอบปี 2567 บริษัทมีการกำกับดูแลกิจการที่ดีพัฒนาอย่างต่อเนื่อง มีระบบบริหารความเสี่ยง ระบบการควบคุมภายใน และระบบการตรวจสอบที่เหมาะสม เพียงพอ และมีประสิทธิผล การรายงานข้อมูลทางการเงินมีความถูกต้องตามสาระสำคัญและเชื่อถือได้ มีการเปิดเผยข้อมูลที่จำเป็นอย่างเพียงพอ และบริษัทมีการปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจ
ดร.เพ็ญนภา ธนสารศิลป์
ประธานคณะกรรมการตรวจสอบ
คณะกรรมการบริษัทได้กำหนดองค์ประกอบ คุณสมบัติ วาระการดำรงตำแหน่ง และหน้าที่ความรับผิดชอบของคณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน (“กสก.”) ไว้ในกฎบัตรคณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน อย่างเป็นลายลักษณ์อักษร โดยกสก.ประกอบด้วยกรรมการที่มีความรู้และประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับธรรมาภิบาล ทรัพยากรบุคคล การเงิน/บัญชี กฎหมาย และการบริหารองค์กร
การเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทนในปี 2567
หน่วย: การเข้าร่วมประชุม/สิทธิในการประชุม
| ลำดับ | รายชื่อ | ตำแหน่ง | การเข้าร่วมประชุม |
| 1 | ดร.เพ็ญนภา ธนสารศิลป์ | ประธานกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน | 3/3 |
| 2 | นางมลฤดี สุขพันธรัชต์ | กรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน | 3/3 |
| 3 | ดร.พินิจสรณ์ ลือชัยขจรพันธ์ | กรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน | 1/1 |
ผลการดำเนินงานคณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน ปี 2567
ในปี 2567 คณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทนได้ปฏิบัติหน้าที่ภายใต้กฎบัตรและขอบเขตอำนาจหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการบริษัทโดยได้จัดให้มีการประชุมรวม 3 ครั้ง เพื่อพิจารณาเรื่องสำคัญตามหน้าที่และความรับผิดชอบที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการบริษัทสรุปได้ดังนี้
- พิจารณาบุคคลที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเป็นกรรมการของบริษัทเพื่อทดแทนกรรมการที่ครบกำหนดออกจากตำแหน่งตามวาระจำนวน 3 ท่าน ทั้งนี้เพื่อเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนนโยบายการกำกับดูแลที่ดีบริษัทได้เปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นมีสิทธิเสนอชื่อบุคคลที่มีคุณสมบัติเหมาะสมในการดำรงตำแหน่งกรรมการ ตามหลักเกณฑ์ของบริษัทแต่ไม่มีผู้ถือหุ้นท่านใดเสนอรายชื่อบุคคลที่มีคุณสมบัติเหมาะสมในการดำรงตำแหน่งกรรมการมายังบริษัท ดังนั้นคณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทนได้พิจารณาถึงความเหมาะสม คุณสมบัติที่จำเป็นและประโยชน์สูงสุดแก่บริษัท เห็นว่ากรรมการที่ครบกำหนดออกจากตำแหน่งตามวาระ มีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่ พ.ร.บ.บริษัทมหาชนฯ กำหนดและเป็นบุคคลผู้ทรงคุณวุฒิมีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์ที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัท มีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล ปฏิบัติงานในฐานะกรรมการที่ผ่านมาได้เป็นอย่างดีมีประวัติการเข้าร่วมประชุมที่ดี รวมถึงมีส่วนร่วมในการแสดงความเห็นที่เป็นประโยชน์ในที่ประชุม จึงได้เสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 1/2567 เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2567 เพื่อเห็นชอบการเสนอแต่งตั้งกรรมการที่ครบวาระจำนวน 3 ท่านเป็นกรรมการบริษัทต่อไปอีกวาระหนึ่ง ก่อนนำเสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 วันที่ 23 เมษายน 2567 เพื่อพิจารณาอนุมัติแต่งตั้ง
- กำหนดค่าตอบแทนกรรมการบริษัทซึ่งได้แก่ค่าตอบแทนรายเดือน ค่าเบี้ยประชุมและค่าบำเหน็จกรรมการสำหรับปี 2567 เพื่อขออนุมัติต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 วันที่ 23 เมษายน 2567 ทั้งนี้ การพิจารณาค่าตอบแทนของกรรมการบริษัทนั้น ได้พิจารณาให้สอดคล้องกับหน้าที่และความรับผิดชอบต่อผลการดำเนินงานของบริษัทโดยมีการเปรียบเทียบกับอัตราค่าตอบแทนของบริษัทที่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกันตามรายงานผลการสำรวจค่าตอบแทนกรรมการของบริษัทจดทะเบียนโดยสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย
- ทบทวนและกลั่นกรองการพิจารณาค่าตอบแทนของกรรมการและผู้บริหารระดับสูงของบริษัทให้เป็นไปตามมาตรฐานของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์และบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน รวมถึงสอดคล้องกับผลการดำเนินงานของบริษัท สภาวะเศรษฐกิจ และเป็นไปตามแนวทางการกำกับดูแลกิจการที่ดี
คณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทนได้รายงานผลการปฏิบัติงานต่อคณะกรรมการบริษัทเพื่อรับทราบอย่างสม่ำเสมอ โดยในรอบปี 2567 คณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทนได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถด้วยความระมัดระวัง รอบคอบ โปร่งใสและเป็นอิสระ เพื่อประโยชน์สูงสุดของบริษัท ผู้ถือหุ้น และผู้มีส่วนได้เสียอื่นๆ อย่างเหมาะสม
ข้อความรับรองของคณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน
คณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทนได้ปฏิบัติหน้าที่ตามที่ระบุไว้ในกฎบัตร ซึ่งได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการบริษัท ด้วยความรู้ ความสามารถ ความระมัดระวัง และความเป็นอิสระ เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย คณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทนมีความเห็นว่าในรอบปี 2567 บริษัทมีกรอบธรรมาภิบาลด้านสรรหาและค่าตอบแทนที่ เหมาะสม โปร่งใส และแข่งขันได้ สอดคล้องกับมาตรฐานของบริษัทจดทะเบียน และสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายระยะยาวของบริษัท
ดร.เพ็ญนภา ธนสารศิลป์
ประธานคณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน
คณะกรรมการบริหารความเสี่ยงของบริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) ปฏิบัติหน้าที่ภายใต้กฎบัตรคณะกรรมการบริหารความเสี่ยง ซึ่งกำหนดองค์ประกอบ คุณสมบัติ วาระการดำรงตำแหน่ง และขอบเขตอำนาจหน้าที่ไว้อย่างเป็นลายลักษณ์อักษร โดยมีบทบาทกำกับ ดูแล และสนับสนุนให้บริษัทมีการบริหารความเสี่ยงอย่างครอบคลุมทั้งองค์กร (Enterprise Risk Management: ERM) เพื่อให้ผู้มีส่วนได้เสียเชื่อมั่นอย่างสมเหตุสมผลว่า การดำเนินงานเชิงกลยุทธ์ของบริษัทมุ่งสู่การบรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
การเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการบริหารความเสี่ยงในปี 2567
คณะกรรมการบริหารความเสี่ยงของบริษัท แพลนบี มีเดีย จำกัด (มหาชน) ได้รับการแต่งตั้งจากคณะกรรมการบริษัท เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้บริษัท มีการบริหารความเสี่ยงทั่วทั้งองค์กร ทั้งนี้เพื่อให้ผู้มีส่วนได้เสียขององค์กร สามารถเชื่อมั่นอย่างสมเหตุสมผลว่า การดำเนินงานเชิงกลยุทธ์ของบริษัทมุ่งไปสู่การบรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมายขององค์กรอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล โดย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 คณะกรรมการบริหารความเสี่ยงของบริษัทประกอบด้วยกรรมการจำนวน 4 คน ซึ่งเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ มีความรู้ความสามารถที่เป็นประโยชน์ต่อการบริหารความเสี่ยงของบริษัท
หน่วย: การเข้าร่วมประชุม/สิทธิในการประชุม
| ลำดับ | รายชื่อ | ตำแหน่ง | การเข้าร่วมประชุม |
| 1 | นายมานะ จันทนยิ่งยง | ประธานกรรมการบริหารความเสี่ยง | 4/4 |
| 2 | นางมลฤดี สุขพันธรัชต์ | กรรมการบริหารความเสี่ยง | 4/4 |
| 3 | ดร. พินิจสรณ์ ลือชัยขจรพันธ์ | กรรมการบริหารความเสี่ยง | 4/4 |
| 4 | นายอานนท์ พรธิติ | กรรมการบริหารความเสี่ยง | 4/4 |
บทบาท อำนาจหน้าที่ และหลักธรรมาภิบาลในการทำงาน
- กำกับกรอบนโยบายและกระบวนการ ERM ให้ครอบคลุมและสอดคล้องกับกลยุทธ์องค์กร งบประมาณ และแผนปฏิบัติการประจำปี
- ทบทวนคำประกาศระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ (Risk Appetite Statement: RAS) เป็นรายปี และกำหนดเกณฑ์สัญญาณเตือนล่วงหน้า/ดัชนีความเสี่ยง (KRIs) ที่สำคัญพร้อมระดับแจ้งเหตุ (Threshold)
- กำกับการระบุ ประเมิน จัดอันดับ บรรเทา และติดตามความเสี่ยง ทั้งระดับองค์กร หน่วยธุรกิจ และโครงการสำคัญ รวมถึงความเสี่ยงที่เกิดขึ้นใหม่ (Emerging Risks)
- ทบทวนการลงทุนและโครงการสำคัญของบริษัทและบริษัทย่อยในมิติความเสี่ยง (เช่น การตรวจสอบสถานะ/สมมติฐานหลัก/ความอ่อนไหว) เพื่อประกอบการตัดสินใจของคณะกรรมการบริษัท
- ประสานงานกับคณะกรรมการชุดย่อยที่เกี่ยวข้อง (ตรวจสอบ/สรรหาและค่าตอบแทน/กำกับดูแลกิจการและความยั่งยืน) เพื่อให้กรอบการควบคุมภายใน การกำกับดูแลกิจการ และการบริหารความเสี่ยง เชื่อมโยงและเสริมกัน
- ยึดหลักธรรมาภิบาลและ การงดออกเสียง (Recusal) ในกรณีมีส่วนได้เสียในวาระที่พิจารณา
กรอบการบริหารความเสี่ยงของบริษัท (ERM Framework)
- ใช้กระบวนการตามวงจร ERM: ระบุ → ประเมิน → จัดการ/บรรเทา → ติดตาม/รายงาน → ทบทวนปรับปรุง
- จัดทำแผนที่ความเสี่ยง (Risk Heat Map) และแดชบอร์ด KRI รายไตรมาส เพื่อนำเสนอคณะกรรมการบริหารความเสี่ยงและคณะกรรมการบริษัท
- ประเมินความเสี่ยงด้วยเกณฑ์ โอกาสเกิดเหตุ × ผลกระทบ ครอบคลุมด้านการเงิน การดำเนินงาน ชื่อเสียง กฎหมาย/คอมพลายแอนซ์ และ ESG
- ดำเนินการทดสอบสถานการณ์ (Scenario/Stress Testing) สำหรับความเสี่ยงสำคัญที่คัดเลือก เพื่อประเมินความทนทานและแผนสำรอง
- กำกับแผนความต่อเนื่องทางธุรกิจ (BCP) และการกู้คืนระบบ (DRP) โดยมีการฝึกซ้อมเป็นระยะและทบทวนบทเรียนหลังเหตุการณ์
ผลการดำเนินงานคณะกรรมการบริหารความเสี่ยง ปี 2567
คณะกรรมการบริหารความเสี่ยงได้ปฏิบัติหน้าที่ภายใต้กฎบัตรของคณะกรรมการบริหารความเสี่ยง และขอบเขตอำนาจหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการบริษัท โดยในปี 2567 ได้จัดให้มีการประชุมคณะกรรมการบริหาร ความเสี่ยงจำนวน 4 ครั้ง เพื่อพิจารณาเรื่องสำคัญ สรุปได้ดังนี้
- กำกับ ดูแล และติดตาม การปฏิบัติตามนโยบายและกรอบการบริหารความเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง
- Considered and reviewed investments of the Company and subsidiaries.
- พิจารณาและสอบทานการลงทุนของบริษัทและบริษัทย่อย
- ทบทวนแนวทางปฏิบัติและกฎบัตรของคณะกรรมการบริหารความเสี่ยงเพื่อให้มั่นใจว่า นโยบายและกฎบัตรดังกล่าว ยังคงมีความเหมาะสมกับลักษณะการดำเนินธุรกิจของบริษัทและเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่หน่วยงานกำกับดูแลกำหนด
- รายงานคณะกรรมการบริษัทเกี่ยวกับความเสี่ยงและแนวทางในการบริหารจัดการความเสี่ยงที่สำคัญอย่างสม่ำเสมอ
- ประเมินผลการดำเนินงานด้านการบริหารความเสี่ยงของบริษัท โดยครอบคลุมความเสี่ยงในทุกมิติ ได้แก่
- ความเสี่ยงด้านกลยุทธ์
- ความเสี่ยงด้านการดำเนินงาน
- ความเสี่ยงด้านการเงิน
- ความเสี่ยงด้านการปฏิบัติตามกฎหมายและกฎเกณฑ์
- ความเสี่ยงด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม
- ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นใหม่ (Emerging Risks)
- ติดตามผลการจัดการความเสี่ยง เพื่อให้มั่นใจว่ามีการดำเนินการตามแผนที่กำหนดและมีประสิทธิผล
วัฒนธรรมความเสี่ยงและการประเมินประสิทธิผล
- ส่งเสริมวัฒนธรรมความเสี่ยง (Risk Culture) ผ่านการสื่อสารจากผู้บริหารระดับสูง/เวิร์กช็อปเชิงปฏิบัติการ และการฝึกอบรมตามบทบาทหน้าที่
- มีการประเมินประสิทธิผลการบริหารความเสี่ยงประจำปี (Self-assessment/ทบทวนโดยหน่วยงานตรวจสอบภายใน) พร้อมแผนปรับปรุงการควบคุม/กระบวนการที่เกี่ยวข้อง
ข้อความรับรองของคณะกรรมการบริหารความเสี่ยง
คณะกรรมการบริหารความเสี่ยงได้ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎบัตรที่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการบริษัท ด้วยความรู้ ความสามารถ ความระมัดระวัง และความเป็นอิสระ เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย คณะกรรมการมีความเห็นว่า ในรอบปี 2567 บริษัทมีการพิจารณาและตระหนักถึงปัจจัยเสี่ยงที่ครอบคลุมการดำเนินธุรกิจหลัก และได้กำหนดกระบวนการบริหารความเสี่ยงที่ เหมาะสม เพียงพอ และมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับนโยบายกำกับดูแลกิจการ ระบบการควบคุมภายใน และกฎหมาย/ระเบียบที่เกี่ยวข้อง
นายมานะ จันทนยิ่งยง
ประธานคณะกรรมการความเสี่ยง
คณะกรรมการกำกับดูแลกิจการและความยั่งยืนปฏิบัติหน้าที่ภายใต้กฎบัตรคณะกรรมการกำกับดูแลกิจการและความยั่งยืน ซึ่งกำหนดองค์ประกอบ คุณสมบัติ วาระการดำรงตำแหน่ง และขอบเขตอำนาจหน้าที่ไว้อย่างเป็นลายลักษณ์อักษร โดยคณะกรรมการประกอบด้วยกรรมการที่มีความรู้และประสบการณ์ด้านกำกับดูแลกิจการ (CG) กฎหมาย การเงิน/บัญชี ทรัพยากรบุคคล การบริหารความเสี่ยง และความยั่งยืน (ESG)
การเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการกำกับดูแลกิจการและความยั่งยืนในปี 2567
คณะกรรมการกำกับดูแลกิจการและความยั่งยืนได้รายงานผลการประชุมต่อคณะกรรมการบริษัททุกครั้ง และสามารถเชิญผู้บริหาร ผู้ตรวจสอบภายใน/ภายนอก หรือที่ปรึกษาที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมชี้แจงประเด็นสำคัญตามความเหมาะสม
หน่วย: การเข้าร่วมประชุม/สิทธิในการประชุม
| ลำดับ | รายชื่อ | ตำแหน่ง | การเข้าร่วมประชุม |
| 1 | ดร.เพ็ญนภา ธนสารศิลป์ | ประธานกรรมการกำกับดูแลกิจการ | 1/1 |
| 2 | นายอานนท์ พรธิติ | กรรมการกำกับดูแลกิจการ | 1/1 |
| 3 | นายประสงค์ จรุงเบญจธรรม | กรรมการกำกับดูแลกิจการ | 1/1 |
บทบาท อำนาจหน้าที่ และหลักธรรมาภิบาลการทำงาน
- กำกับและทบทวนนโยบายกำกับดูแลกิจการที่ดี จรรยาบรรณธุรกิจ/จริยธรรมพนักงาน นโยบายผลประโยชน์ทับซ้อน การซื้อขายหลักทรัพย์ของบุคคลวงใน และนโยบายเปิดเผยข้อมูล
- กำกับทิศทางและกรอบการดำเนินงานด้านความยั่งยืน (ESG) รวมถึงการบูรณาการประเด็นสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาลในกลยุทธ์/การดำเนินงาน การประเมินสาระสำคัญ (Materiality) และตัวชี้วัด/เป้าหมายหลัก
- กำกับช่องทางร้องเรียน/แจ้งเบาะแส (Whistleblowing) ให้เหมาะสม โปร่งใส มีความเป็นอิสระ และมีกระบวนการสอบทาน/คุ้มครองผู้ร้องเรียน
- ติดตามการปฏิบัติตามกฎหมายและข้อกำหน ที่เกี่ยวข้องกับบริษัท และแนวปฏิบัติตามหลักการกำกับดูแลกิจการสำหรับบริษัทจดทะเบียน พ.ศ. 2560
- ประสานงานกับคณะกรรมการชุดย่อยที่เกี่ยวข้อง (เช่น ตรวจสอบ/ความเสี่ยง/สรรหาและค่าตอบแทน) เพื่อให้กรอบธรรมาภิบาลและความยั่งยืนสอดคล้องและเสริมกัน
- เลขานุการบริษัททำหน้าที่สนับสนุนด้านข้อมูล เอกสาร และการติดตามงานตามมติอย่างเป็นระบบ
กรอบการดำเนินงานด้าน ESG และการบูรณาการกับการบริหารความเสี่ยง
- ทบทวนแผนความยั่งยืนระดับองค์กร และการเชื่อมโยงกับกลยุทธ์/โครงสร้างแรงจูงใจทางการบริหาร
- ติดตามการบูรณาการ ESG กับกรอบบริหารความเสี่ยงของบริษัท (ERM) ครอบคลุมความเสี่ยงด้านกฎหมาย/คอมพลายแอนซ์ ไซเบอร์ซีเคียวริตี/ความเป็นส่วนตัวของข้อมูล สิทธิมนุษยชน ห่วงโซ่อุปทาน อาชีวอนามัยและความปลอดภัย ชุมชน และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
- กำกับให้มีเป้าหมายและตัวชี้วัดที่เหมาะสม (เชิงคุณภาพ/เชิงปริมาณ) พร้อมกลไกติดตามและรายงานความคืบหน้าอย่างสม่ำเสมอ
ผลการดำเนินงานคณะกรรมการกำกับดูแลกิจการและความยั่งยืน ปี 2567
ในปี 2567 คณะกรรมการกำกับดูแลกิจการและความยั่งยืนดำเนินการอย่างต่อเนื่องในการส่งเสริมและสนับสนุนให้บริษัท กรรมการ ผู้บริหาร ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวัง มีความรับผิดชอบ เป็นไปตามระบบการกำกับดูแลกิจการที่ดีและมีการทบทวนแนวปฏิบัติการกำกับดูแลกิจการของบริษัท เพื่อให้สอดคล้องกับหลักการกำกับดูแลกิจการสำหรับบริษัทจดทะเบียนปี 2560 ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย สำหรับผลการประเมินจากองค์กรต่างๆ ที่บริษัทได้รับ มีดังนี้
- การประเมินการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนไทยในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (Corporate Governance Report of Thai Listed Companies) โดยสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ประจำปี 2667 อยู่ในเกณฑ์ “ดีเลิศ (5 ดาว)"
- การประเมินคุณภาพการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น (AGM checklist) โดยสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย (Thai Investors Association) ประจำปี 2567 100 คะแนน อยู่ในระดับ “ดีเยี่ยม” ต่อเนื่องกันเป็นปีที่ 9 ตั้งแต่ปี 2559
- การพัฒนาองค์กรและความยั่งยืน (Sustainability & ESG) ในปี 2567 บริษัทยังคงได้รับการรับรองเป็นสมาชิกแนวร่วมปฎิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านการทุจริต ตามที่ได้มีการประกาศเจตนารมณ์ในการเข้าร่วมการต่อต้านการทุจริตและคอร์รัปชัน
บริษัทคํานึงถึงประเด็นความเสี่ยงในการดําเนินธุรกิจอย่างครอบคลุมทั้งในมิติด้านสิ่งแวดล้อม มิติด้านสังคม และมิติด้านบรรษัทภิบาล (Environment, Social, and Governance: ESG) ตลอดจนส่งเสริมให้มีการเปิดเผยข้อมูลการกำกับดูแลกิจการและการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืนเพื่อสะท้อนคุณค่าและมูลค่าที่แท้จริงของบริษัท โดยคณะกรรมการกำกับดูแลกิจการและความยั่งยืน มีหน้าที่สนับสนุนคณะกรรมการบริษัทในการกำกับดูแลเรื่องต่างๆ ทั้งด้านบรรษัทภิบาล รวมถึงที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน เช่น สิทธิมนุษยชน ชุมชน ความรับผิดชอบต่อสังคม อาชีวอนามัยและความปลอดภัย ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ฯลฯ
ข้อความรับรองของคณะกรรมการกำกับดูแลกิจการและความยั่งยืน
คณะกรรมการกำกับดูแลกิจการและความยั่งยืนได้ปฏิบัติหน้าที่ตามที่ระบุไว้ในกฎบัตร ซึ่งได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการบริษัท ด้วยความรู้ ความสามารถ ความระมัดระวัง และความเป็นอิสระ เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย คณะกรรมการมีความเห็นว่า ในรอบปี 2567 บริษัทมีกรอบกำกับดูแลกิจการและการดำเนินงานด้านความยั่งยืนที่ เหมาะสม โปร่งใส และมีประสิทธิผล สอดคล้องกับมาตรฐานของบริษัทจดทะเบียน และสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนของบริษัท
ดร.เพ็ญนภา ธนสารศิลป์
ประธานคณะกรรมการกำกับดูแลกิจการและความยั่งยืน