นโยบายนักลงทุนสัมพันธ์
- ช่วงเวลางดรับนัด (Silent Period) บริษัทได้กาหนดช่วงเวลางดรับนัด (Silent Period) ในระหว่างช่วงเวลา 14 วันก่อนที่บริษัทจะประกาศงบการเงินต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หน่วยงานนักลงทุนสัมพันธ์จะไม่รับนัด ให้ข้อมูล หรือตอบข้อซักถามใดๆ เกี่ยวกับงบการเงินให้แก่นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ นักลงทุน ผู้ถือหุ้น ยกเว้น กรณีตอบข้อเท็จจริงหรือให้ข้อมูลที่บริษัทได้มีการเปิดเผยแล้ว หรือชี้แจงเหตุการณ์ที่มีผลต่อราคาหุ้นของบริษัท
- แนวทางปฏิบัติในการซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัทสาหรับบุคลากรทีมนักลงทุนสัมพันธ์ (Blackout period) หน่วยงานนักลงทุนสัมพันธ์จะงดการซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัทเป็นเวลาอย่างน้อย 45 วันล่วงหน้าก่อนการเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณชน และอย่างน้อย 24 ชั่วโมงภายหลังการเปิดเผยข้อมูลให้แก่สาธารณชนแล้ว
การดูแลเรื่องการใช้ข้อมูลภายใน
เพื่อให้การดำเนินงานของบริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) ("บริษัท") เป็นไปตามนโยบายการกำกับดูแลกิจการที่ดี บริษัทได้กำหนดแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการใช้ข้อมูลภายในไว้ดังนี้:
1. การให้ความรู้และการรายงานการถือครองหลักทรัพย์
- ให้ความรู้แก่กรรมการและผู้บริหารเกี่ยวกับหน้าที่ในการรายงานการถือครองหลักทรัพย์ของตน คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ตามมาตรา 59 และ 246 แห่ง พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ พร้อมบทกำหนดโทษตามมาตรา 275 และ 298
- กำหนดให้กรรมการและผู้บริหารต้องจัดทำและส่งรายงานการเปลี่ยนแปลงการถือครองหลักทรัพย์ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. และส่งสำเนาให้แก่บริษัทในวันเดียวกัน
2. การควบคุมการซื้อขายหลักทรัพย์ในช่วง Blackout Period
- ห้ามกรรมการ ผู้บริหาร และผู้เกี่ยวข้องซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัทในช่วง อย่างน้อย 30 วันก่อนการเปิดเผยงบการเงินหรือข้อมูลภายใน และต้องรออย่างน้อย 24 ชั่วโมงหลังการเปิดเผยข้อมูล ก่อนจึงจะสามารถทำการซื้อขายได้
- บุคคลที่รับรู้ข้อมูลภายในต้องไม่เปิดเผยข้อมูลดังกล่าวต่อบุคคลภายนอกจนกว่าจะมีการเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณชน
3. การแจ้งล่วงหน้าก่อนการซื้อขาย
- กำหนดให้กรรมการและผู้บริหารระดับสูง ต้องแจ้งต่อผู้ได้รับมอบหมาย (เช่น เลขานุการบริษัท) อย่างน้อย 1 วันทำการล่วงหน้าก่อนการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ของบริษัท เพื่อความโปร่งใสและการรายงานที่ถูกต้องต่อ SET
4. การห้ามใช้ข้อมูลภายในเพื่อประโยชน์ส่วนตน
- ห้ามมิให้กรรมการ ผู้บริหาร พนักงาน หรือลูกจ้างใช้ข้อมูลภายในที่ยังไม่เปิดเผย ซึ่งอาจมีผลต่อราคาหลักทรัพย์ เพื่อการซื้อ/ขาย หรือชักชวนผู้อื่นให้ซื้อ/ขายหลักทรัพย์ของบริษัท ทั้งทางตรงและทางอ้อม
- ไม่ว่าจะมีผลประโยชน์ตอบแทนหรือไม่ และไม่ว่าจะก่อให้เกิดความเสียหายโดยตรงหรือไม่ก็ตาม ถือเป็นการกระทำที่ผิดวินัยอย่างร้ายแรง
5. มาตรการทางวินัยกรณีฝ่าฝืน
- การฝ่าฝืนจะถูกพิจารณาโทษทางวินัย เช่น การตักเตือนด้วยวาจา/หนังสือ การภาคทัณฑ์ หรือการเลิกจ้างตามความเหมาะสม
6. การรักษาความลับของข้อมูลภายในและลูกค้า
- ห้ามกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานนำข้อมูลภายในหรือข้อมูลของลูกค้าไปใช้เพื่อผลประโยชน์ส่วนตน เว้นแต่เป็นการเปิดเผยตามกฎหมาย
- กำหนดสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลตามระดับตำแหน่ง เพื่อป้องกันการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต
7. กรณีมีบุคคลภายนอกเข้าถึงข้อมูลภายใน
- หากมีบุคคลภายนอกเข้ามาเกี่ยวข้องในงานเฉพาะกิจและได้รับรู้ข้อมูลภายใน ต้องมีการลงนาม สัญญาเก็บรักษาข้อมูลความลับ (Confidentiality Agreement)
* ข้อมูลภายในของบริษัท หมายถึง
- ข้อมูลด้านการเงิน/งบการเงิน/ผลประกอบการ ของบริษัท บริษัทย่อย และ/หรือ บริษัทร่วมค้า ที่ยังไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณชนผ่านระบบของตลาดหลักทรัพย์
- ข้อมูลการได้มาซึ่งสัญญาทางการค้าที่สำคัญอันจะมีผลต่อผลประกอบการโดยรวมอย่างมีนัยสำคัญ ของบริษัท บริษัทย่อย และ/หรือ บริษัทร่วมค้า
- ข้อมูลเกี่ยวกับการบริหาร และผู้บริหารของบริษัท บริษัทย่อย และ/หรือ บริษัทร่วมค้า ยกเว้นข้อมูลที่ได้รับการเปิดเผยเป็นไปตามกฏหมายแล้วแต่กรณี