ดร. พินิจสรณ์ ลือชัยขจรพันธ์
กรรมการผู้จัดการ
นายปรินทร์ โลจนะโกสินทร์
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
เรียน ท่านผู้ถือหุ้น

ในปี 2566 ปัจจัยขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจเริ่มกลับมาเดินหน้าอีกครั้ง ภาคธุรกิจและกิจกรรมต่างๆ ทั้งในประเทศไทยและประเทศในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลกมีแนวโน้มกลับเข้าสู่สภาวะปกติมากขึ้นเป็นลำดับภายหลังจากการเปิดประเทศ อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยยังต้องเผชิญกับความท้าทายจากปัจจัยลบ ไม่ว่าจะเป็นด้านการเงิน เศรษฐกิจโลก และความขัดแย้งทางภูมิศาสตร์ บริษัทได้ติดตามสถานการณ์ต่างๆ อย่างใกล้ชิดและปรับกลยุทธ์ในการดำเนินงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์ต่างๆ ฝ่ายบริหารและพนักงานทุกฝ่ายได้พยายามดำเนินงานตามแผนงานให้สัมฤทธิ์ผลตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยในปี 2566 บริษัทสามารถสร้างรายได้รวมที่ 8,365 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติกาลนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท พร้อมส่งมอบกำไรสุทธิให้กับ ผู้ถือหุ้นของบริษัทที่ 911 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทยังคงรักษาสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง มีเงินสดและเงินลงทุนที่มีสภาพคล่องเพียงพอต่อการขยายธุรกิจในอนาคต โดยมีหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ทีระดับ 0.82 เท่า แสดงถึงความสามารถ ที่แข็งแกร่งของบริษัทในการจัดการกับภาระผูกพันทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมที่จะก้าวเข้าสู้ปีที่ 19 ด้วยความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน

ธุรกิจสื่อโฆษณานอกที่อยู่อาศัยยังคงเป็นธุรกิจหลักของบริษัท โดยในปี 2567 บริษัทมีโครงการใหม่ๆ ที่จะเข้ามาช่วยเสริมทัพการเติบโตของรายได้ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มความสามารถในการผลิตสื่อโฆษณาในระบบขนส่งมวลชน เช่น นครชัยแอร์ ที่จะมีการโฆษณาบริเวณสถานนีรถโดยสารประจำทางและโฆษณาภายนอกรถโดยสารประจำทางกว่า 200 คัน ใน 24 เส้นทาง การเปิดตัวของ MuvAds (Tuk-Tuk) สื่อโฆษณาเคลื่อนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงการได้สิทธิขายสื่อโฆษณาบนเครื่องบิน กลุ่มโฆษณาระบบสื่อสารบันเทิงบนเครื่องบิน ให้กับ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) สายการบินแห่งชาติที่มีเส้นทางการบินที่หลากหลายทั้งภายในและระหว่างประเทศกว่า 55 เส้นทางการบิน รวมถึงการการขยายสื่อโฆษณาดิจิทัลที่บริเวณตึก Exchange Tower เพื่อสร้างความครอบคลุมถึงผู้บริโภคตลอดชีวิตประจำวันของการเดินทาง สะท้อนวิสัยทัศน์ในการเป็นผู้นำทางด้านนวัตกรรมและสื่อโฆษณานอกที่อยู่อาศัย

ธุรกิจการตลาดแบบมีส่วนร่วมเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่บริษัทให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มธุรกิจด้านสปอร์ต มาร์เก็ตติ้ง ที่ยังคงมุ่งเน้นและสร้างเครือข่ายการเติบโตอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อสร้าง Ecosystem ผลักดันการเติบโตของบริษัทอย่างยั่งยืนผ่านกลยุทธ์การตลาดแบบ 4Os ได้แก่ สื่อนอกที่อยู่อาศัย (OOH) ออนไลน์ (Online) สื่อโทรทัศน์ (On-Air) และการจัดกิจกรรม (On-Ground) เพื่อพัฒนาและต่อยอดแผนการตลาดให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง

  • กีฬาฟุตบอลที่กลับมาคึกคักเพิ่มขึ้นอีกครั้งหลังจากทีมฟุตบอลทีมชาติไทยทำผลงานได้ดีเยี่ยมในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย "AFC ASIAN CUP 2023" โดยสามารถทำผลงานผ่านเข้าถึงรอบ 16 ทีมสุดท้ายได้เป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกัน ต่อเนื่องจากปี 2562 และยังสามารถขยับอันดับโลกตาม FIFA Ranking จากเดิมอันดับ 113 ขึ้นมาอยู่ที่อันดับ 101 ของโลก โดยเป็นอันดับที่สูงสุดในรอบ 14 ปี ของทีมชาติไทย และทำให้ทีมชาติไทยครองแรงกิ้งอันดับ 1 ของทีมชาติในอาเซียนได้อีกด้วย
  • บริษัทประสบความสำเร็จธุรกิจกีฬามวยเป็นอย่างมากในช่วงระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากรายการ Rajadamnern World Series หรือ RWS ที่ยังคงได้เสียงตอบรับที่ดีทั้งจากนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ ทั้งนี้ ในปี 2567 บริษัทยังคงมุ่งเน้นจัดการแข่งขันให้มีความหลากหลาย รวมถึงการจัดอีเวนต์ครอบคลุมตลอด 7 วันต่อสัปดาห์ โดยกลุ่มเป้าหมายหลักของบริษัทยังคงเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติที่ชื่นชอบศิลปะมวยไทยและต้องการที่จะเข้าชมการแข่งขันมวยไทย ณ เวทีราชดำเนิน พร้อมทั้งถ่ายทอดสดรายการ RWS ผ่านทาง ดะโซน (DAZN) สตรีมมิงคอนเทนต์กีฬายักษ์ใหญ่ระดับโลก ด้วยการถ่ายทอดสดไปกว่า 200 ประเทศ นอกเหนือจากนั้น บริษัทมีแผนที่จะผลักดันวงการมวยไทยสู่ระดับสากลมากขึ้น โดยวางแผนที่จะจัดชกในประเทศต่างๆ เพื่อสร้างกระแสนิยมและดึงดูดผู้ชมจากทั่วโลกให้รู้ถึงเอกลักษณ์และอรรถรสของมวยไทยอย่างแท้จริง
  • แพลนบี อีเลฟเว่น (Plan B Eleven) ผู้ร่วมบริหารสิทธิ์การถ่ายทอดสด การแข่งขันโอลิมปิก ปารีส 2024 และบริหารสิทธิ์บริหารงานทางการตลาดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ร่วมกับ เดนท์ สุ อิงค์ (Denstu Inc.) ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นผู้รับสิทธิ์จากคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (International Olympic Committee) ร่วมสร้างประสบการณ์ครั้งสำคัญให้คนไทยได้สัมผัสทุกช่วงเวลาของ โอลิมปิก ปารีส 2024 ภายใต้แนวคิดหลักความเป็น “ที่สุดของที่สุด” ตั้งแต่ก่อนเริ่ม ระหว่างแข่งขัน และหลังจบการแข่งขัน ผ่านการสื่อสารอย่างครบวงจรด้วยกลยุทธ์การตลาดแบบ 4Os เข้ามาพัฒนาและต่อยอดแผนการตลาดเพื่อผลักดันกระแสการรับชม เชียร์ และส่งกำลังใจให้กับทัพนักกีฬาไทยในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ปารีส 2024 ให้มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น โดยมีเป้าหมายให้ประชาชนสามารถร่วมเชียร์ทีมชาติไทยได้จากหลากหลายช่องทาง ทุกที่ ทุกเวลา ครอบคลุมในทุกแพลตฟอร์ม ทั้งสถานีโทรทัศน์ดิจิทัล สื่อบนอินเตอร์เน็ต และโทรศัพท์มือถือ

นอกเหนือจากความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจให้แข็งแรงแล้วนั้น บริษัทยังคงให้ความสำคัญด้านการสร้างความยั่งยืนบริษัท นำประเด็นสำคัญขององค์กร จัดทำกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน ที่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ขององค์กรภายใต้พันธกิจและแนวคิดในการสร้างคุณค่าด้านความยั่งยืนในระยะยาวให้ผู้มีส่วนได้เสีย ควบคู่กับการรักษาความสมดุลของระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีในชุมชนและสังคม พร้อมทั้งตั้งเป้าหมายและกำหนดตัวชี้วัดความสำเร็จในการดำเนินงาน และวางแผนการดำเนินงานอย่างเป็นรูปธรรมในระยะเวลา 5 ปี (ปี 2565-2569) และที่สำคัญการดำเนินงานของบริษัทที่ให้ความสำคัญในความรับผิดชอบต่อสังคมและผู้มีส่วนได้เสียตลอดห่วงโซ่คุณค่า สอดรับกับเป้าหมายความยั่งยืนแห่งสหประชาชาติ (UNSDGs) มีความโดดเด่นและได้รับการยอมรับ

แพลนบี เป็นบริษัทเดียวในกลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ที่คัดเลือกให้อยู่ใน ESG Emerging List จากสถาบันไทยพัฒน์ ในปี 2566 อีกทั้ง ได้รับการคัดเลือกเข้าสู่รายชื่อหุ้นยั่งยืน (THSI) ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 โดยได้ผลคะแนนในระดับ “AA” บริษัทได้รับการประเมินเป็นบริษัทที่มีการกำกับดูแลกิจการในระดับ “ดีเลิศ” (5 ดาว) จากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 และบริษัทผ่านการรับรองสถานะการเป็นสมาชิกแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านการทุจริต (CAC) สะท้อนถึงนโยบายการดำเนินธุรกิจในแนวทางที่ถูกต้อง และโปร่งใส บนพื้นฐานของจริยธรรมและความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังสนับสนุนการเรียนรู้ ส่งเสริมนวัตกรรม ให้ความสำคัญในการวิจัยและพัฒนา อันเป็นพื้นฐานของการเติบโตอย่างมั่นคง ของธุรกิจของบริษัทต่อไปในอนาคต

ในนามตัวแทนผู้บริหารขอขอบคุณสำหรับความไว้วางใจ การสนับสนุนและความเชื่อมั่นจากผู้ถือหุ้น นักลงทุน สถาบันการเงิน พันธมิตรทางธุรกิจ ลูกค้า ตลอดจนผู้บริหารและพนักงานทุกท่านที่ได้ร่วมแรงร่วมใจช่วยดำเนินธุรกิจจนทำให้บริษัทสามารถสร้างผลประกอบการที่ดีตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เราทุกคนจะยังคงมุ่งพัฒนาธุรกิจพร้อมปรับตัวในยุคปัจจุบันที่โลกมีความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเพื่อให้มีความพร้อมสำหรับโอกาสและความท้าทายที่จะเกิดขึ้นโดยยึดในหลักการพัฒนาอย่างยั่งยืนเพื่อสร้างประโยชน์สูงสุดให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่ายอย่างสมดุล เป็นส่วนหนึ่งที่จะนำพาสังคมไทยก้าวหน้าอย่างยั่งยืนต่อไป